นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นอภิปราย เพื่อขอใช้สิทธิพาดพิง นายประพันธุ์ คูณมี และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่อภิปรายในประเด็นคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม
ว่า "การโหวตนายกรัฐมนตรี ผมยังมีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบทุกประการ และมีความชอบธรรมซึ่งในกระบวนการตนยังไม่รู้ว่าข้อกล่าวหาคืออะไรเห็นเพียงผ่านสื่อมวลชน สมมติฐานที่ว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน
มีศาลเตี้ยในสภานี้ไม่ได้ตอนยังไม่มีโอกาสในการชี้แจง แม้แต่ครั้งเดียวในปี 62 มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็ไม่กระทบต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ผมรัดกุมมาตลอดเกี่ยวกับการยื่น ป.ป.ช. ตั้งแต่เป็น ส.ส.ครั้งแรก ครั้งนี้และครั้งต่อไปเพราะผม ยอมรับในการตรวจสอบ ก็ยังดีกว่าบางคนที่ไม่ยอมรับการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือ ป.ป.ช.ก็ตาม"
"ชัยธวัช" เตือนสติสมาชิกรัฐสภา ขออย่านำสถาบันมาปะทะกับผลการเลือกตั้ง
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน อภิปรายในประเด็นการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า การเลือกตั้งผ่านมาแล้ว 2 เดือน ประชาชนเฝ้ารอว่านายกรัฐมนตรี ที่มาจากพรรคอันดับ 1 อย่างนายพิธา ที่ต้องได้ขึ้นเป็นนายกฯ แล้ว ทุกอย่างต้องเรียบง่าย แต่ตอนนี้กลับมีคำถามในใจของพี่น้องประชาชน ว่าหากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่เป็นไปตามผลการเลือกตั้ง แล้วเราจะมีการเลือกตั้งไปทำไม ตกลงอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ เป็นอำนาจของปวงชนชาวไทย ตามที่ปรากฏและบัญญัติอยู่ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือเป็นของใครกันแน่
นายชัยธวัช ยังย้อนเหตุการณ์การเมือง ทั้งรัฐประหาร ยุบพรรค การตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และการชุมนุมครั้งใหญ่ มีทั้งผู้ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ทางการเมือง ในช่วง 2 ทศวรรษ หากเรายังเป็นเช่นนี้อยู่ เราก็แทบจะไม่เห็นอนาคตของประเทศเลย พร้อมระบุว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และการลงมติในสภาวันนี้ จะได้เป็นโอกาสสำคัญ ในการแสวงหาตำตอบ ให้กับสังคม
นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า สมาชิกหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล หลายคนมีความกังวลใจ ไม่คุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลง อย่างการเสนอแก้ไข ม.112 ว่าเจตนาที่แท้จริงแล้ว อยู่บนฐานความคิด ว่าสถาบันของชาติ สถาบันการเมืองใดๆ ก็ตาม จะดำรงอยู่ได้ ก็ด้วยความยินยอมพร้อมใจของประชาชน
"ไม่มีสถาบันใด สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยการกด ปราบ บังคับ แล้วนี่เป็นสิ่งที่เราพยายามจะเตือน ให้สติกับสมาชิกที่อยู่ในสภาฯ และกับสังคมไทย ผู้มีอำนาจทุกฝ่าย ให้ตั้งสติ แล้วมองการไกล เข้าใจสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน แล้วเล่งเห็นให้ได้ว่า วิธีการอะไรที่ดีที่สุด ที่จะสามารถรักษาสิ่งที่พวกเรารัก สิ่งที่หลายคนหวงแหนให้ดำรงอยู่ให้ได้"
นายชัยธวัช ยังไม่อยากเห็นสิ่งที่เกิดในระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกกล่าวหาว่า ถ้าเลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะเกิดการล้มล้างสถาถัน ไม่รักชาติ ตนไม่อยากเห็นแบบนี้เลย เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพราะท่านทรงอยู่เหนือการเมืองทุกประการ อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง แล้วอันตรายมากที่เมื่อไหร่ต่างฝ่ายต่างดึงเรื่องนี้เข้ามาพัวพันในความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเห็นอยู่แล้วในเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ผลในวันนี้เป็นอย่างไร เราพยายามที่จะเสนอต้องช่วยกัน ช่วยกันนำสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความขัดแย้งทางการเมือง และยิ่งนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาปะทะกับผลการเลือกตั้ง ไม่สมควรอย่างยิ่ง ก่อนตั้งคำถามใครจะรับผิดชอบกับผลการกระทำแบบนี้